การวิจัยพบว่ายารักษาเชื้อราในเล็บเท้าสามารถกำจัดเซลล์โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่มีภูมิต้านทานการรักษาเคมีบำบัดได้
Thailand Medical News Jan 14, 2019 5 years, 3 months, 3 weeks, 18 hours, 8 minutes ago
วิธีการรักษาด้วยการปลุกและหยุดระงับเซลล์หลับของเนื้อร้ายที่สามารถจะทำให้เกิดโรคมะเร็งกลับมาได้หลังที่ได้รับการรักษาโดยเคมีบำบัด
เซลล์หลับของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก
การวิจัยใหม่ได้พบว่า ยาชนิดหนึ่งที่ปกติถูกใช้ช่วยในการรักษาปัญหาเชื้อราในเล็บเท้าอาจจะเป็นประโยชน์ในการต่อต้านมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักที่เอาชีวิตคนไทยถึง 4,000 ชีวิตต่อปี
มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักคือมะเร็งที่พบได้มากที่สุดเป็นลำดับที่สี่ในสหราชอาณาจักร แต่มันก็เป็นฆาตกรลำดับที่สอง และนักวิทยาศาสตร์มีความหวังว่าตัวยาฆ่าเชื้อราที่มีชื่อว่า Itraconazole จะช่วยป้องกันให้โรคมะเร็งไม่กลับมาหลังจากได้รับการรักษา นักวิจัยจากสถาบันวิจัยโรคมะเร็งเคมบริดจ์ได้พบว่ายาขนิดนี้สามารถกำจัดเนื้อร้ายจากตัวหนู แต่ก็ฆ่าเซลล์หลับที่จะทำให้เนื้อร้ายกลับมาใหม่ได้อีกด้วย
เหล่าเซลล์หลับเหล่านี้จะเกิดขึ้นอยู่ในโรคมะเร็งหลายประเภทและไม่ได้รับผลกระทบจากการรักษาโดยเคมีบำบัดทั่วไปที่จะเจาะจงกำจัดตัวเซลล์ในยามที่มันกำลังขยายตัว
นักวิทยาศาสตร์ยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าอะไรที่ทำให้เซลล์ตื่นขึ้นมาใหม่และเริ่มขยายตัวขึ้น
ดร. ไซมอน บิวค์แซคกิ บอกว่า ตัวยา Itraconazole “เสมือนกับว่าจะทำให้ทั้งเซลล์ที่หลับและไม่หลับนั้นมีพฤติกรรมขึ้นมา มันบังคับให้เหล่าเซลล์กลับไปสู่วัฏจักรการขยายตัวระยะสั้นก่อนที่จะสั่งให้มันหยุด และเข้าสู่สถานะหยุดนิ่งอย่างถาวรที่เรียกว่า ชราภาพ”
ตัวยา Itraconazole ที่
ในปัจจุบันยังไม่ได้รับการทดสอบเพื่อความปลอดภัยและประสิทธิผลสำหรับโรคมะเร็งในมนุษย์ ทำงานในจุดหนึ่งของวัฏจักรชีวิตของมะเร็งทวารที่เป็นจุดสำคัญของมะเร็งหลายประเภท โดยจะกีดกันกลไกของเซลล์ที่เรียกว่า Wnt ที่เป็นส่วนหนึ่งในการเจริญขยายตัวแหละแพร่หลายของเนื้อร้าย ในการศึกษาตัวหนูได้พบว่ายาชนิดนี้ทำให้เนื้อร้ายยุบลงเมื่อการขยายตัวของพวกมันได้ถูกชะงักไว้ และเหล่าเซลล์หลับนั้นถูกทำลายจนหมดสิ้น
ประเด็นนี้อาจเป็นจุดสำคัญในการรักษาโรคมะเร็งทวารระยะขั้นปลายที่รักษาได้ยาก ซึ่งอาจจะเกิดการกำเริบขึ้นมาใหม่จากเซลล์เหล่านี้แล้ว หรือที่อาจจะมีภูมิต้านทานการรักษาโดยเคมีบำบัด โดยปกติแล้ว มะเร็งทวารซึ่งมีผลกระทบต่อลำไส้ใหญ่และไส้ตรง จะสามารถรักษาได้อย่างสำเร็จ แต่เพราะว่ามักจะไม่พบอาการของมันที่แน่นอนเป็นระยะเวลานาน การที่จะวิเคราะห์โรคได้จึงอาจสายไปในบ่อยครั้ง
หลังจากงานการวิจัยได้ถูกตีพิมพ์ลงไว้ในวารสาร
Journal of Experimental Medicine ศาสตราจารย์ เกรก แฮนนอน ผู้กำกับสถาบันเคมบริดจ์ บอกว่า การค้นพบในวันนี้เป็นการเดินทางสู่การเอาชนะ “หนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด” ในการวิจัยโรคมะเร็งในปัจจุบัน และ “ถ้าหากเราหาทางกำจัดเซลล์เหล่านี้ในโรคมะเร็งทวารได้ มันอาจจะให้ข้อมูลในเชิงลึกกับเราในการแก้ปัญหาของเซลล์หลับได้อย่างกว้างขวางขึ้น”
เหล่านักวิจัยที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการทดลองของสถาบันการวิจัยโรคมะเร็งบอกว่าการก่อผลเพื่อให้ลดการที่โรคมะเร็งจะกำเริบขึ้นมาใหม่เป็นอะไรที่พวกเขายินดีด้วยอย่างมาก แต่ก็เตือนว่าผลจากการวิจัยนั้นยังไม่ได้มีการถูกทดลองในมนุษย์
ดร. จูเลีย แอมเบลอร์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยแห่ง Bowel Cancer และ Beating Bowel Cancer บอกว่า “การวิจัยในระยะเบื้องต้นภายในตัวหนูนี้ได้เน้นประโยชน์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากยาชนิดนี้ในการรักษาโรคมะเร็งทวารบางประเภทและอาจเป็นไปได้ที่จะลดโอกาสให้โรคมะเร็งนั้นกลับมาใหม่”
“แต่ถึงอย่างไรก็ยังต้องมีการวิจัยในด้านนี้เพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจว่าจะมีประสิทธผลเดียวกันกับในคนที่เป็นโรคมะเร็งทวารด้วยหรือไม่”
อ้างอิง: Simon J.A. Buczacki, Semiramis Popova, Emma Biggs, Chrysa Koukorava, Jon Buzzelli, Louis Vermeulen, Lee Hazelwood, Hayley Francies, Mathew J. Garnett, Douglas J. Winton. Itraconazole targets cell cycle heterogeneity in colorectal cancer. The Journal of Experimental Medicine, 2018; jem.20171385 DOI: 10.1084/jem.20171385