For The Latest Medical News, Health News, Research News, COVID-19 News, Pharma News, Glaucoma News, Diabetes News, Herb News, Phytochemical News, Thailand Cannabis News, Cancer News, Doctor News, Thailand Hospital News, Oral Cancer News, Thailand Doctors

BREAKING NEWS
แหล่งข่าว: American Heart Association   Apr 06, 2019  6 years, 3 months, 1 week, 4 days, 18 hours, 49 minutes ago

ภัยของยารักษาไข้หวัดใหญ่หากคุณเป็นโรคหัวใจ

ภัยของยารักษาไข้หวัดใหญ่หากคุณเป็นโรคหัวใจ
แหล่งข่าว: American Heart Association   Apr 06, 2019  6 years, 3 months, 1 week, 4 days, 18 hours, 49 minutes ago
มากกว่า 32 ล้านคนได้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่แล้วในฤดูกาลนี้และมีการผันผวนตามฤดูกาลอยู่อย่างต่อเนื่อง หากคุณเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งคุณอาจคิดที่จะออกไปร้านยาเพื่อบรรเทาความเจ็บ ความปวด และอาการคัดจมูก


 

แต่ก่อนที่จะไป คุณต้องพิจารณาว่ายารักษาไข้หวัดที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งยาบางชนิดมีผลกระทบต่อหัวใจคุณอย่างไร
 
“ผู้ที่มีความดันโลหิตสูงไม่ได้รับการควบคุมหรือโรคหัวใจควรหลีกเลี่ยงการทานยาลดอาการคัดจมูก” กล่าว ซอนดรา เดพอลมา ผู้ช่วยแพทย์ที่สถาบัน PinnacleHealth CardioVascular ที่ UPMC Pinnacle ในรัฐเพนซิลเวเนีย “และสำหรับประชากรทั่วไปหรือผู้ที่มีความเสี่ยงต่ำต่อโรคหลอดเลือดหัวใจ ควรใช้ยาตามคำแนะนำจากผู้ให้บริการด้ารสุขภาพ”
 
เดพอลลมาได้ร่วมเขียนแนวทางที่เผยแพร่ในปี 2007 โดยสมาคม American Hearth Association และ American College of Cardiology ซึ่งเน้นในการดูแลจัดการของภาวะความดันโลหิตสูงในผู้ใหญ่ ทั้งยาลดอาการคัดจมูกและยาแก้อักเสบชนิดไม่ใช่สะเตอรอยด์ (NSAID) ที่พบอยู่ในยารักษาไข้หวัดหลายรายการถูกระบุว่าเป็นยาที่สามารถเพิ่มความดันโลหิตได้
 
ยาลดอาการคัดจมูก—เช่น ซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) และ ฟีนิลเอฟรีน (Phenylephrine)—ทำให้หลอดเลือดตีบ มันทำให้น้ำเข้าโพรงจมูกได้น้อยลง “ซึ่งทำให้คุณแห้ง” กล่าว ดร.อีริน ไมโคส รองผู้อำนวยการด้านหทัยวิทยาเชิงป้องกันที่ Johns Hopkins Ciccarone Center for the Prevention of Hearth Disease ในเมืองบัลติมอร์
 
“แต่หากคุณเป็นความดันโลหิตสูงหรือโรคหัวใจ สิ่งสุดท้ายที่คุณต้องการคือหลอดเลือดตีบ” เธอได้กล่าว “มันอาจจะทำให้อาการหนักขึ ้นหรือแย่ลงได้”
ที่น่ากังวลที่สุดคือในผู้ที่เคยมีภาวะหัวใจวายหรือภาวะหัวใจล้มเหลวหรือภาวะความดันโลหิตสูงที่ไม่ถูกควบคุม ไมคอสได้กล่าว
 
แต่การวิจัยเกี่ยวกับ NSAID ได้ชี้แนะว่าผู้ที่ดูเหมือนสุขภาพปกติก็มีความเสี่ยงเช่นกัน
 
งานวิจัยในปี 2017 ในวารสาร Journal of Infectious Diseases ได้ตรวจดู 10,000 คนที่ติดเชื้อทางเดินหายใจที่เข้าโรงพยาบาลด้วยภาวะหัวใจวาย ผู้ได้รับการทดลองได้มีอายุ 72 ปีโดยเฉลี่ยเมื่อเกิดภาวะหัวใจวายและหลายรายได้มีปัจจัยเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจหลายประการ เช่น โรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง นักวิจัยพบว่าผู้ที่ใช้ยากลุ่ม NSAID ในขณะที่ป่วยนั้นมีโอกาสหัวใจวายภายในหนึ่งสัปดาห์มากกว่าสามเท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านั้นประมาณหนึ่งปีเมื่อผู้ได้รับการทดลองไม่ได้ป่วยหรือทานยากลุ่ม NSAID
 
ซึ่งอาจเป็น
 
เพียงแค่เป็นไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ก็สร้างความเครียดแก่ระบบหลอดเลือดหัวใจได้ การต่อต้านโรคทำให้อัตราการเต้นหัวใจเพิ่มขึ้นและก่อให้เกิดการอับเสบ ในขณะเดียวกันยากลุ่ม NSAID—ซึ่งติดฉลากเตือนเกี่ยวกับการสูงขึ้นของความเสี่ยงต่อภาวะหัวใจวายและโรคหลอดเลือดสมอง—สามารถทำให้เกิดปัญหาโดยการลดปริมาณของโซเดียมที่ถูกขับออกทางปัสสาวะซึ่งเพิ่มการกักเก็บของน้ำและเพิ่มความดันโลหิต เดพอลมาได้กล่าว
 
ยากลุ่ม NSAID มีความเสี่ยงสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจหรือภาวะหัวใจล้มเหลวโดยเฉพาะ ไมคอส ได้กล่าว ผู้ที่มีอาการป่วยควรใช้ยาทั้งสองกลุ่ม—ยาลดอาการคัดจมูก และ NSAID—อย่างรอบคอบและเข้าใจผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้
 
สำหรับยาลดอาการคัดจมูก แนวทางด้านความดันโลหิตแนะนำให้ใช้มันในช่วงเวลาที่สั้นที่สุดหรือใช้ทางเลือกอื่น เข่น เซลีนล้างจมูกหรือสารต้านฮิสทามีนเพื่อช่วยแก้อาการคัดจมูก ยาลดอาการคัดจมูกไม่ควรถูกใช้เกินเจ็ดวันก่อนจะปรึกษากับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ
 
ยา NSAID ที่ทานในลักษณะเม็ดควรถูกหลีกเลี่ยงหากเป็นไปได้เพื่อเลี่ยงผลกระทบต่อความดันโลหิต แนวทางได้แนะนำมา ยา NSAID ภายนอกและอะเซตามีโนเฟนได้รับการแนะนำให้ถูกใช้แทน
 
“มีการรักษาที่มีประสิทธิภาพที่มีความเสี่ยงน้อยกว่าและที่ควรจะลองใช้ก่อนอย่างแน่นอน” เดพอลมา ได้กล่าว “หากจำเป็นต้องใช้ยาที่ไม่ต้องใช้ใบสั่งอื่นๆก็ควรใช้มันอย่างระมัดระวัง และหากใครพบว่ามีปัญหาเช่นความดันโลหิตสูงหรืออย่างอื่นเช่นอาการหัวใจสั่นเขาควรคุยกับผู้ให้บริการด้านสุขภาพ”
 
หากมีอาการเพียงเล็กน้อยหรือปานกลาง ควรพักผ่อนและดื่มน้ำให้มาก ไมคอส ได้บอก การป้องกันภาวะขาดน้ำควรช่วยลดอาการปวดเมื่อยในร่างกาย ล้างเสมหะ และอาจลดความจำเป็นของยาลดอาการคัดจมูก
 
เพื่อหลีกเลี่ยงการป่วยตั้งแต่แรกไมคอสแนะนำให้ล้างมือบ่อยๆและนอนหลับมากๆ โดยเฉพาะในฤดูกาลไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ ศูนย์ Centers for Disease Control and Prevention แนะนำให้ฉีดวัคซีนโรคไขหวัดใหญ่ทุกปีสำหรับผู้ที่อายุ 6 เดือนขี้นไปและวัคซีนโรคปอดอัดเสบสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบและผู้ใหญ่ 65 ปีขึ้นไป

MOST READ

May 10, 2025  2 months ago
Nikhil Prasad
Apr 29, 2025  3 months ago
Nikhil Prasad
Mar 10, 2025  4 months ago
Nikhil Prasad
Mar 01, 2025  5 months ago
Nikhil Prasad